2019.2

30 ผลงานรางวัลน่าสนใจ จากเวทีประกวด Cannes Lions 2019

เลือกงานประกวดความคิดสร้างสรรค์คานส์ไลอ้อนครั้งที่ 66 มาจำนวน 30 ผลงานที่โดดเด่นในปีนี้

 

1) วีดีโอเกมส์เป็นของทุกคน Microsoft เสนอจอยเกมที่เล่นได้แม้พิการ

จอยเกมส์ปกติจะมีปุ่มมากมายและถูกออกแบบมาให้เฉพาะผู้เล่นที่มีอวัยวะครบถ้วนสมบูรณ์เท่านั้น Microsoft XBox มองเห็นว่าเกมส์ควรจะเป็นของทุกคนจึงรวมทีมออกแบบจอยเกมที่เด็กที่ไม่สมบูรณ์ทางด้านร่างกายก็ยังสามารถเล่นได้สนุกสนานไม่ต่างกับเด็กคนอื่นๆ ทำให้ครอบครัวมีความสุขเมื่อเห็นรอยยิ้มของเด็กๆเวลาได้เล่นวีดีโอเกม แคมเปญนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีตอนเปิดตัวที่ซูปเปอร์โบลว์ แถมยังจัดแข่งขัน eSport แบบแนวพาราริมปิกอีกด้วย

 

CAMPAIGN :  CHANGING THE GAME / MICROSOFT
AWARDS : GRAND PRIX (Brand Experience & Activation > Consumer Durables > Brand Experience & Activation: Sectors)
GOLD (Design > Consumer Technology & Homeware > Products)
GOLD (Innovation > Product Innovation > Innovation)
Titanium Lions

 

 

 

 

 

2) แคมเปญใจกล้า ถ้าชอบด่าว่าให้กลับไปบ้านเกิด ก็เอาคำนี้มาชวนคนเชื้อสายแอฟริกากลับไปท่องเที่ยวบ้านเกิดของบรรพบุรุษซะเลย

ปัญหาหยียดผิวทวีความรุนแรง มีการด่าทอคำหนึ่งที่ว่า “GO BACK TO AFRICA” หมายถึง “กลับประเทศบ้านเกิดของแกไปซะ” ที่พูดกันอยู่บ่อยๆในทวิตเตอร์ แคมปญนี้เป็นของโปรแกรมการท่องเที่ยวแอฟริกา ที่กลับมุมคิดใช้คำนี้มาเป็นคำเชิญให้มาเที่ยวแอฟริกาเสียเลย โดยแคมเปญนี้เน้นบอกเฉพาะคนเชื้อสายแอฟริกันเท่านั้น จึงต้องมีเทคโนโลยีมาเกี่ยวข้องโดยนำ Data และ AI มาใช้เพื่อหาคนเหล่านี้ให้เจอบนออนไลน์ แล้วใช้มีเดียที่พูดเฉพาะเจาะลงตามไลฟ์สไตล์เพื่อเชิญให้มาเที่ยว  แคมเปยนี้โดดเด่นคือการใจกล้าที่ใช้คำนี้มาเล่น เพราะ sensitive มาก ไม่มีแบรนด์ไหนอยากนำมาเล่น และถ้าหลุดไปคุยกับคนเชื้อชาตอื่น เกิดดราม่าแน่นอน

CAMPAIGN :  GO BACK TO AFRICA / BLACK & ABROAD
AWARDS : GRAND PRIX (Creative Data > Social Data & Insight > Creative Data)

 

 

3) วอลโว่แคร์ทุกความปลอดภัยแม้เรื่องที่คาดไม่ถึง อย่างเช่นหุ่นทดสอบอุบัติเหตุในแลบต้องไม่เป็นเฉพาะเพศชาย

แบรนด์ที่คำนึงถึงความปลอดภัยอย่างวอลโว่ ต้องการที่จะสื่อว่าเรื่องของความปลอดภัยต้องไม่มีช่องโหว่ สิ่งหนึ่งที่พบเวลาเทสต์ในห้องแลบเรื่องความปลอดภัยคือ หุ่นดัมมี่ที่นำมาใช้ทดสอบเป็นการจำลองสรีระเฉพาะเพศชาย และมีแนวโน้มที่ทำเพื่อซัพพอร์ตเพศชายมากกว่า ทำให้สถิติอุบัติเหตุย้อนหลัง 40 ปีที่วอลโว่สะสมมาจะพบได้ว่า แนวโน้มที่เพศหญิงจะบาดเจ็บมีสูงกว่า ทางวอลโว่จึงเป็นคนแรกที่พูดถึงเรื่องนี้และพร้อมแจกงานวิจัยที่รวบรวมมาทั้งหมดให้อุตสาหกรรมรถยนต์ ที่โดดเด่นคือการที่เอเจนซี่ค้นพบความไม่เท่าเทียมของเพศในเรื่องการดีไซน์ความปลอดภัย ซึ่งไม่มีใครเคยเจอมาก่อนผ่านดาต้า ใครสนใจดูต่อที่ https://www.volvocars.com/eva

CAMPAIGN :  The E.V.A. Initiative / VOLVO
AWARDS : GRAND PRIX (Creative Strategy > Automotive > Sectors)
GOLD (Brand Experience & Activation > Use of Website / Microsites > Touchpoints & Technology)
GOLD (Creative Data > Creative Data Collection & Research > Creative Data)

 

 

4) แซะได้แซะดี เบอร์เกอร์คิงแจกเบอร์เกอร์ฟรี แค่โหลดแอพมือถือและไปเอาคูปองที่ร้านแมคโดนัลด์คู่แข่ง

ทุกๆปี BURGER KING ก็จะออกแคมเปญมากวนประสาทคู่แข่งอย่าง McDonald’s อยู่บ่อยๆ   เลยใช้เทคโนโลยี GeoFencing เป็นลูกเล่นในการแกล้งคู่แข่ง กล่าวคือเมื่อดาวน์โหลดแอพฯแล้วเปิดตอนเข้าใกล้ร้านแมคโดนัลด์ก็จะได้คูปองส่วนลดเพื่อซื้อ WHOPPER ในราคาเหมือนแจกฟรี จากนั้นแอพก็จะนำทางต่อไปที่ร้าน BURGER KING ที่อยู่ใกล้ๆร้านแมคโดนัลด์นั้น ถ้าดูดีๆ จริงๆทาง BURGER KING ต้องการให้คนโหลดแอพพร้อมกับให้ข้อมูลแลกกับการแจกฟรีเท่านั้น แต่ด้วยความกวนที่เป็นคาแรคเตอร์ของแบรนด์ ก็เลยจำเป็นจะต้องแซะตามธรรมเนียม แถมคนที่งงๆก็กลายเป็นเครื่องมือไปแซะพนักงานแมคโดนัลด์อีกต่อด้วย

CAMPAIGN :  The Whopper Detour / BURGER KING
AWARDS : GRAND PRIX (Direct > Retail > Direct: Sectors)
GRAND PRIX  (Mobile > Activation by Location > Technology)
GRAND PRIX  (Titanium )
GOLD (Direct > Challenger Brand > Culture & Context)
GOLD (Direct > Use of Mobile > Digital & Social)
GOLD (Mobile > Excellence in Mobile Campaign & Messaging > Excellence in Mobile)
GOLD (Media > Retail > Media: Sectors)
GOLD (Media > Use of Mobile > Channels)

 

 

 

5) ประชดภาษีผ้าอนามัย ขอหุ้มด้วยหนังสือเพราะเป็นสินค้าที่ภาษีต่ำกว่า

ผ้าอนามัยแบบสอดมีการเก็บภาษีในราคาที่สูงถึง 19% สูงกว่าสินค้า Luxury หลายๆตัว เพราะถูกมองว่าเป็นของฟุ่มเฟือย การจะให้คนถามหาความแฟร์ในเรื่องนี้จึงออกสินค้าใหม่ เป็นหนังสือแต่ข้างในเป็นผ้าอนามัย จริงๆแล้วไม่ใช่อยากจะขายแบบนี้ แต่เป็นการประชดและกลายเป็นสิ่งที่จับต้องได้ให้นักการเมืองผู้หญิงถือเข้าไปต่อสู้ในกฏหมายว่าด้วยเรื่องนี้ในสภา

CAMPAIGN :  The Tampon Book: a book against tax discrimination / THE FEMALE COMPANY
AWARDS : GRAND PRIX  (PR > Other FMCG > PR: Sectors)

 

 

 

 

6) เข้าถึง Subculture แบรนด์ Wendy’s ไม่ถูกใจสิ่งนี้ เข้ามาป่วนเกมส์เปิดวอร์ใน Fortnite แบบอิหยังวะ

คอเกมส์ส่วนใหญ่ชอบไปดูคนสตรีมกันที่ Twitch แล้วในนี้มีเกมที่โด่งดังอยู่เกมส์นึงชื่อ Fortnite ซึ่งเป็นเกมส์แนว Battle Royale ไล่ฆ่ากันเรื่อยๆ เรื่องมีอยู่ว่ามีอีเวนต์หนึ่งในเกมส์ต้องแบ่งเป็นสองทีม คือทีมเบอร์เกอร์ กับทีมพิซซ่า ส่วน Wendy’s นี่ไม่เกี่ยวอะไรเลย แต่ขอเข้ามาเปิดวอร์ด้วยคน เพราะ Wendy’s ไม่ถูกใจรายละเอียดของเกมส์เล็กๆส่วนหนึ่งคือ ทีมเบอร์เกอร์ดันไปเก็บเนื้อที่เป็นวัตถุดิบในช่องฟรีซ แต่แบรนด์เบอร์เกอร์นี้ไม่ใช้เนื้อแช่แข็งทำเบอร์เกอร์(โว้ย) ถ้าใครจำคาแรคเตอร์ Wendy’s ได้คือ เป็นเด็กผู้หญิงผูกเปียผมสีแดงจอมแก่น น้อง Wendy’s เลยแต่งเป็นตัวละครในเกมส์ (กลายเป็นหน้าอย่างโหด) เข้าไปป่วนเกมส์โดยการไปทำลายตู้เย็นที่ทีมเบอร์เกอร์เก็บเนื้อแช่แข็งไว้ แทนที่จะไปไล่ฆ่าผู้เล่นตามกติกาของเกมส์ ป่วนขนาดไหนก็ทำไป 9 ชั่วโมง แถมสตรีมบน Twitch  อีก ความเป็นน้องจอมซนเข้ามาเ_ือกกับชาวบ้านขนาดนี้ ก็เลยกลายเป็นไวรอลแบบอิหยังวะ กลายเป็น Savage Marketing ไปเล้ยยย

 

CAMPAIGN :  Keeping Fortnite Fresh / WENDY’S
AWARDS : GRAND PRIX (Social & Influencer >Innovative Use of Community > Social Insights & Engagement )
GOLD (Entertainment > Excellence in Brand Integration for Games > Branded Games)
GOLD (Media > Use of Social Platforms > Channels)

 

 

 

7) ถูกใจเหล่า Sneakerhead เปลี่ยนสตรีทอาร์ตให้เป็นสโตร์ รักษาวัฒนธรรม Street ไว้คู่เมือง

บางเมืองมองสตรีทอาร์ตเป็นสิ่งรกตาและพยายามกำจัด แต่ไนกี้มองว่า Street Culture คือส่วนสิ่งสำคัญ จึงถือโอกาสออกสินค้าผ่านการ collaborate กับศิลปินสตรีทอาร์ตเติมภาพรองเท้าไนกี้ในภาพที่มีอยู่แล้วทั่วเมืองใหม่ แล้วเชิญแฟนๆเหล่า Sneakerhead มาร่วม engage พร้อมสิทธิ์ในการซื้อสินค้า Nike คอลเลกชั่นพิเศษนี้ กลายเป็นเรื่อง win-win เพราะสตรีทอาร์ตท้ายที่สุดจะถูกมองว่าเป็นศิลปะที่ควรอยู่คู่กับเมือง

CAMPAIGN :  Air Max Graffiti Stores / NIKE
AWARDS : GRAND PRIX(Media > Social Behaviour & Cultural Insight > Culture & Context)

 

 

 

8) บัตรเครดิตสำหรับคนรักษ์โลก นิยามใหม่อย่าเรียกแค่ Credit Card แต่ให้เรียก Carbon Credit Card

Do Black คือเครดิตการ์ดสำหรับคนรักษ์โลกตัวจริง เพระาภาวะโลกร้อนหลักๆเกิดจากการบริโภคตัวเรา เครดิตการ์ตัวนี้สามารถตรวจดูสินค้าทุกตัวว่ามี Carbon footprint เท่าไหร่ และแทนที่จะให้ privilege ต่างๆ การ์ดตัวนี้จะไม่อนุมัติการจ่ายหากเราใช้  Carbon footprint  เกินกำหนด

CAMPAIGN :  DO Black – The carbon limit credit card / DOCONOMY
AWARDS : GRAND PRIX  (Creative eCommerce > Payment Solutions: Software & Apps > Use of Technology)

 

 

 

9) หนังสือพิมพ์หน้าว่างเปล่าทั้งฉบับ ประท้วงนักการเมืองที่ปล่อยให้ว่างเปล่า (ไม่จัดตั้งรัฐบาล) ให้พอเสียที

ประเทศเลบานอนเกิดสภาวะสูญญากาศไม่มีรัฐบาลมาหลายเดือน เพราะแบ่งเค้กกันไม่ลงตัว อยู่กันแบบนี้มานานจนประชาชนเอือมเพราะนักการเมืองต่างไม่ยอมกัน หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งจะพิมพ์หนังสือพิมพ์โดย issue นี้ไม่มีข้อมูลอะไรเลย เป็นกระดาษเปล่าว่างๆ รวมไปถึงช่องทางออนไลน์อื่นๆด้วย เป็นการประท้วงและเรียกร้องให้คนสนใจ โดยให้เหตุผลว่า ถ้านักการเมืองปล่อยประเทศให้ว่างเปล่า หนังสือพมิพ์ก็ทำได้เหมือนกัน เมื่อเป็นหน้าว่างๆแปลว่ามีที่ว่างให้ประชาชนเขียน headline ของตัวเอง แล้วถ่ายประจานสถานการณ์นี้ออกไปให้โลกรู้

CAMPAIGN :  The Blank Edition / AN-NAHARE
AWARDS : GRAND PRIX (Print & Publishing > Commercial Publications > Publications)

 

 

 

10) ถ้าจะใส่เสื้อผ้าอวดโซเชียลแล้วต้องทิ้งให้เป็นภาระโลก ก็ใช้คอลเลกชั่น Digital Clothing ไปอวดเสียเลยสิ

แฟชั่นมาแล้วก็ไป ที่เหลืออยู่คือขยะที่รอคอยการกำจัด แฟชั่นมีไว้เพื่อโชว์ อาจจะแค่ครั่งเดียวบนโซเชียลมีเดีย เทคโนโลยีนี้คือ Digital Clothing ซึ่งคอนเซปป์นี้มานานแล้วตั้งแต่ยุคดอตคอมบูมแต่ยังไม่มีใครทำได้เข้าใกล้ของจริง พอเห็นว่าตอนนี้ทำได้แล้ว แล้วสังคมโซเชียลเฟื่องฟูถึงขนาดมีึ Hashatg #ootd (Outfit of the day) มากกว่า 280 ล้านภาพ แถมมีรีเสริช์ว่าวัยรุ่นอังกฤษซื้อเสื้อผ้าออนไลน์มาถ่ายลงโซเชียลและส่งคืนร้านถึง 17% พฤติกรรมแบบนี้ไม่ดีต่อโลกเราในอนาคต แบรนด์เสื่อผ้าแห่งหนึ่งเลยออกคอลเลคชั่น Virtual Collection เพื่อตอบสนอง Need ของคนยุคนี้พร้อมกันกับอยากมห้คนตระหนักเรื่องสิ่งแวดล้อมไปด้วยในตัว

CAMPAIGN :  adDRESS THE FUTURE / CARLINGS
AWARDS : GRAND PRIX (Digital Craft > Personalised Storytelling & Experience > Content)
GOLD (Mobile > Social Trends > Social)

 

11) ซื้อหนังสือวาบหวิว เปลี่ยนคอนเทนต์ใหม่ให้ใส่มุมมองสิทธิสตรี

เหตุเกิดที่โปแลนด์ องค์กรหนึ่งซื้อหัวหนังสือโป๊ที่วางแผงมายาวนาน (ซึ่งจริงๆอาจจะใกล้ปิดตัวแล้วก็เป็นได้)  แล้ววางแผนปล่อย Issue สุดท้ายโดยเปลี่ยนเนื้อหาข้างในให้เกี่ยวกับสิทธิสตรี หนังสือเล่มนี้ถูกส่งไปหาคนดังๆให้ช่วยโปรโมทพร้อมสื่อสนับสนุนอีกมากมาย 

CAMPAIGN :  The Last Ever Issue   / GAZETA.PL/MASTERCARD/BNP PARIBAS
AWARDS : GRAND PRIX (Glass – The Lion For Change)
Titanium Lion

 

12) ตีแผ่ชีวิตจริงของเด็กๆ เดี๋ยวนี้โรงเรียนเขามีให้เด็กฝึกซ้อมเอาตัวรอดจากเหตุยิงกราดในโรงเรียนแล้วนะ

Mass Shooting เป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่เกิดถี่ขึ้นเรื่อยๆ เหตุเพราะกฏหมายเรื่องการถือครองปืนยังคงหาซื้อได้ง่าย คนที่เป็นเหยื่อเคราะห์ร้ายจึงเป็นเด็ก  เรื่องที่คนไม่ค่อยรู้คือตอนนี้ในโรงเรียนมีการสอนสิ่ที่เรียกว่า Lockdown drills แล้ว Lockdown drills  คือกระบวนการที่ฝึกให้เราป้องกันตัวเองเวลาเราอยู่ในอาคารและมีเหตุร้ายเกิดขึ้นอย่างเช่น School Shooter …ไอเดียนี้เรียบง่ายมากคือ นำเด้กที่ถูกเทรนเรื่องนี้ไปเทรนผู้ใหญต่อตามงาน team building แล้วบันทึกวีดีโอไว้ เป็นเพราะความเรียบง่ายแต่ช็อกผู้คนคือสาเหตุที่กระแสนี้ถูกส่งต่อไปอย่างวงกว้าง โดยเฉพาะผู้ใหญ่ที่สามารถจัดการเรื่องนี้ได้แต่ไม่จัดการเสียที ทำไมเด้กถึงต้องมาฝึกอะไรแบบนี้ด้วย

CAMPAIGN :  Generation Lockdown / MARCH FOR OUR LIVES
AWARDS : GRAND PRIX (Grand Prix For Good > GPG)
GOLD (Film > Single-market Campaign > Culture & Context)
GOLD (Social & Influencer > Social Film > Social Content Marketing)

>https://vimeo.com/344620733

 

 

13) อุปกรณ์เสริมพิเศษเพียงแค่ประกอบให้เข้ากับชุด IKEA แนวคิดสร้างเฟอร์นิเจอร์ให้กับทุกคน เพราะเรื่องปกติของเรากลายเป็นเรื่องไม่ปกติของคนอื่น

โปรเจคนี้เป็นของ IKEA แบรนด์เฟอรนิเจอร์แนว DIY ที่ทุกคนรู้จักกันดี เพียงแต่ว่าเฟอร์นิเจอร์ปกติกลายเป็นสิ่งไม่ปกติสำหรับคนที่ต้องการได้รับการดูแลเป็นพิเศษ และเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะก็แพงกว่ามาก ทาง IKEA เลยออกอุปกรณ์เสริมที่่สามารถเติมเข้าไปกับวิธีประกอบแบบปกติ และยังเปิดให้ดาวน์โหลดแบบ open source คือสามารถสั่งพรินต์ผ่าน 3D Printing ที่ไหนก็ได้บนโลก

CAMPAIGN :  ThisAbles / IKEA
AWARDS : GRAND PRIX (Health & Wellness >  Corporate Image & Communication Product Innovation > Health Services & Corporate Communications)
GOLD (Health & Wellness >  Brand-led Education & Awareness Product Innovation > Health Awareness & Advocac)
GOLD (Health & Wellness >  OTC Products / Devices Product Innovation > Consumer Products Promotion)

 

14) ตรวจสอบปัญหาทางปอดผ่านการเป่ามืือถือ สดงผลออกมาเป็นลายเส้นพู่กันจีน

คนที่มีแนวFน้มมีปัญหาทางการหายใจ (โรค COPD) ในจีนมีถึง 100 ล้านคน ที่ได้รับการตรวจจริงๆมีนิดเดียว ไอเดียนี้คือการนำสิ่งที่ทุกคนมีติดตัวก็คือมือถือและแอพ Wechat เป็นตัวเช็ค เพียงแค่เป่าผ่านมือถือ ระบบจะตรวจสอบได้ระดับหนึ่ง และแสดงผลออกมาเป็นเหมือนการเป่าพู่กันจีน ใส่ gamification และ culture เฉพาะตัวลงไปในไอเดีย

CAMPAIGN :  Breath of Life / GSK GLAXOSMITHKLINE
AWARDS : GRAND PRIX (Pharma > Regulated Creative Data: Data Visualisation > Disease Awareness & Understanding)
GOLD (Pharma > Regulated Use of Technology > Disease Awareness & Understanding)

 

 

15) จัดตลาดมืด ขายสินค้าจากเมล็ดพันธุ์ท้องถิ่น ประท้วงกฏหมายผู้กขาดพืชผักที่ตัดต่อพันธุกรรมผูกขาดโดยนายทุน

รู้หรือไม่ว่าพืชผักในซุปเปอร์มาร์เก็ตถูกจำกัดการขายให้กับพืชพันธุ์เพียงไม่กี่ประเภทเท่านั้น ซึ่งเทียบแล้วเท่ากับ 3% ของสปีชีส์ท้องถิ่นทั้งหมด ใครขายถือว่าผิดกฏหมาย ห้างคาร์ฟูร์เลยทำการท้าทาย จัด Black Market ขายสินค้าเหล่านี้จากเกษตรกรทั้งๆที่รู้ว่าผิดกฏหมาย เป็นแคมเปญที่จงใจและท้ทายกฏหมายตรงๆเพื่อกดดันให้มีการแก้ไขกฏหมายเพื่อแก้ไขความไม่ยุติธรรมนี้ แถมปกป้องเกษตรกรที่มาขายไม่ให้ต้องรับผิดด้วย เป็นแคมเปญที่กล้าและท้าทายจนน่าลุกขึ้นยืนตรบมือ

CAMPAIGN :  Black Supermarket / CARREFOUR
AWARDS : GRAND PRIX (Creative Effectiveness > Creative Effectiveness > Creative Effectiveness)

 

 

 

 

16) ใช้คลิปใน YouTube ของฝึกสอน Machine Learning ให้แยกแยะเสียงต่างๆเพื่อไว้คอยเตือนผู้พิการทางการได้ยิน

See Sound คืออุปกรณ์ช่วยให้ผู้มีปัญหาในการได้ยิน ได้รู้เหตการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเหตุการณ์ฉุกเฉินหรือเหตุการณ์ที่หากได้ยิน เราต้องให้ความสนใจเพราะมันผิดปกติ อุปกรณ์ตัวนี้จะคอยเตือนผ่าน smartphone ว่ามีเสียอะไรผิดปกติ เช่น หน้าต่างแตก แต่การจะรู้ว่าเสียงอะไรต้องใข้หลักการ Machine Learning ให้โปรแกรมได้เรียนรู้ การจะเรียนรู้แยกแยะได้ต้องมีวัตถุดิบป้อนให้เรียนรู้ ปรากฏว่าแหล่งอาหารชั้นดีอยู่ใน YouTube  เพราะในนี้มีคลิปเป็นล้านๆมีทั้งภาพและเสียงให้คอยวิเคราะห์และเรียนรู้ ทำให้ See Sound แม่นยำมากขึ้นๆเรื่อยๆ

CAMPAIGN :  See Sound / WAVIO
AWARDS : GRAND PRIX (Innovation > Early Stage Technology > Innovation)
GOLD (Mobile > Networked / Connected Devices / Wearable Technology > Technology)

 

 

17) ใครใช้ภาพสัตว์ในการสื่อสารการตลาด รบกวนช่วยจ่าย 0.5% ของงบมีเดีย มาช่วยสัตว์โลกด้วย

การสื่อสารการตลา่ดของเราใช้สัตว์ต่างๆเป็นองค์ประกอบราว 20% ของทั้งหมด การริเริ่ม (Initiative) เกิดบนความคิดที่ว่า ถ้าแบรนด์ไหนใช้ประโยชน์จากสัตว์ในการทำการตลาด ก็ควรบริจาคเงินมาช่วยสัตว์เหล่านี้ที่ยังต้องการความช่วยเหลือต่างๆอีกมากมายด้วย

CAMPAIGN :  The Lion’s Share / MARS
AWARDS : GRAND PRIX (Sustainable Development Goals > Partnerships for the Goals > Partnership)

 

 

 

 

18) ป้ายโฆษณาเยอะกว่าเหรอ เผามันซะ (บนออนไลน์) เกรียนให้สุดตามประสาเบอร์เกอร์คิง

จริงๆแคมเปยนี้เหมือนแคมเปญ Detour เป็นอย่างมาก ต่างตรงที่แคมเปญนี้เกิดที่บราซิล และฉวยเอาสิ่งที่แมคโดนัลด์มีมากกว่าคือพื้นที่โฆษณาเพราะมีบัดเจ็ดมากกว่า เลยเป็นไอเดียไล่เผาโฆษณาแมคเพื่อปรากฏเป็นโฆษณาเบอร์เกอร์คิงแทน เบื้องหลังคือการไปไล่เก็บภาพโฆษณาของคู่แข่งทุกสื่อเพื่อที่จะรู้ว่าหน้าตาเป็นอย่างไร จะได้เผาให้ถูกต้อง และที่เหมือนกันคือเป็นวิธีสนุกๆที่กัดคู่แข่งเพื่อให้ส่วนลด แค่นั่นแหละ

CAMPAIGN :  BURN THAT AD / BURGER KING
AWARDS : GOLD (Direct > Challenger Brand > Culture & Context)

 

 

19) ฉี่ปุ๊บ ตรวจสุขภาพปั๊บ เจ้าของรู้ทันทีว่าสุนัขสุขภาพเป็นเช่นไร แค่ฉี่รดป้ายโฆษณา

ไอเดียเชิงโชว์เคสนี้โดดเด่นตรงที่เอาพฤติกรรมปกติของสุนัขที่ฉี่รดเสามาทำการตลาด ไอเดียคือการตรวจสุขภาพผ่านฉี่สุนัข โดยเจ้าของแค่พามาเดินสวนสาธารณะตามปกติ เพราะเจ้าของพาน้องหมามาเดินเล่นได้ แต่มักละเลยพาไปตรวจสุขภาพ สะดวกแบบนี้แต่ทำไม่ง่าย มันมีความยากในการพัฒนาเทคโนโลยีให้ตรวจสอบแบบเรียลไทม์ และความสะอาดปนเปื้อนต้องไม่มีปัญหา

CAMPAIGN :  Street-Vet / Purina
AWARDS : GOLD (Direct > Other FMCG > Direct: Sectors)
GOLD (Health & Wellness > Animal Health Creative Data: Use of Real-Time Data > Animal Health)

 

20) แจก Sampling กลิ่นหอมๆผ่านบับเบิ้ลกันกระแทกเวลาซื้อของผ่านออนไลน์

เวลาคนชอปออนไลน์จะมีสิ่งหนึ่งที่ขาดหายไปคือประสบการณ์เชิง physical ได้แก่ รูป รส กลิ่น เสียง โดยเฉพาะกลิ่นที่ไม่ได้มีอะไรมาทดแทนประสบการ์แบบออฟไลน์ได้ แบรนด์ GLADE ที่เกี่ยวกับกลิ่นเห็นช่องในเรื่องบับเบิ้ลที่ใส่ไว้กันกระแทกออนไลน์ว่าสามารถนำมาเป็นสื่อเชิง Sampling ได้ เพราะข้างในอัดอากาศอัดไว้ แค่ทำให้มันแตกออกก็กลายเป็นตัวอย่างสินค้าชั้นดี … เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่ใช้วิธีผิดที่ผิดทางแต่ทดแทนกันได้ ซึ่งก็ออกมาลงตัว

CAMPAIGN :  SCENT BY GLADE / S.C JOHNSON
AWARDS : GOLD (Media > Use of Ambient Media: Small Scale > Channels)

 

 

 

 

21) เวบ eCommerce ที่ออกแบบให้สุนัขซื้อของได้เอง ผ่าน Face Recognition แบบหมาๆ

เวบขายของสัตว์เลี้ยงนี้ ออกแบบให้เจ้าของสามารถนำสุนัขของตัวเองมาดูว่าสนใจสินค้าหรือไม่ ด้วยระบบที่เป็น AI ที่ผ่านการเรียนรุ้จากผู้เชียวชาญสุนัขแต่ละสายพันธุ์จะวิเคราะห์ได้ว่าสุนัขทำท่าสนใจหรือไม่ และ UI/UX ก็ยังถูกออกแบบมาให้เหมาสมกับน้องๆด้วย

CAMPAIGN :  Pet-Commerce / PETZ
AWARDS : GOLD (Creative Data > Data-enhanced Creativity > Creative Data)

 

 

22) เราเหลือเวลาที่จะใช้ด้วยกันไม่มากแล้ว ดังนั้นเรามาลองคำนวนกันเถอะ จะได้รู้ว่าเราควรใช้เวลาด้วยกันมากขึ้นอีกนิด

ปีxว่ากันว่าถ้าเรานับไปอีก 40 ปีข้างหน้า เราจะใช้เวลาที่เหลืออยู่รวม 6 ปี ในการดูทีวี  10 ปีใช้เวลาบนหน้าจอ แต่ถ้าใช้เวลากับคนที่เรารัก มันน้อยกว่านั้นมาก ในยคุคสกรีนเราทักกันบนแต่ออนไลน์ แบรนด์เหล้า Ruavieja จึงทำเวบและโฆษณาเชิง Experiment เพื่อสะท้อนเรื่องนี้ โดยให้เราคำนวนว่าเราจะมีโอกาสใช้เวลารวมกับคนที่เราสนิทด้วยได้อีกนานแค่ไหน ซึ่งพอคำนวนออกมา มันเหลือไม่มากเลย ดังนั้นเรามาใช้เวลาดีๆร่วมกันๆเถอะ ข้อดีของแคมเปญนี้คือ ถ่ายทอดมิติการ Spend Time ด้วยกัน ในมิติของความเสียดาย ความกลัว ซึ่งเป็นเซนส์ของสัตว์สังคมอย่างมนุษย์ เช็คได้ที่ https://www.ruavieja.es/tenemosquevernosmas/

CAMPAIGN :  THE TIME WE HAVE LEFT /  PERNOD RICARD
AWARDS : GOLD (Creative Strategy > FMCG > Sectors)

 

23) เด็กพิการทางการได้ยิน เรียนรู้ภาษาเขียนได้ยาก จึงออกแอพอนิเมชั่นที่แปลงคำศัพท์ทีละคำให้เป็นภาษามือ

ในปัจจุบันมีเด็กพิการทางการได้ยินอยู่มากถึง 32 ล้านคน ซึ่งระบบการเรียนรู้ภาษาของเด็กเหล่านี้จะมีความแตกต่างจากคนปกติ ความสามารถในการอ่านและเขียนขึ้นจะเรียนรู้ได้ยากเพราะไม่มีการเรียนรู้ผ่านการได้ยิน ทำให้จับคู่ศัพท์กับเสียงไม่ได้  การสร้างทักษาะของการอ่านและเข้าใจ (Literacy) จึงเกิดได้ช้า แอพตัวนี้จะมาช่วยเปลี่ยนคำศัพท์ที่อยุ่ในหนังสือให้กลายเป็นภาษามือ (ign Language)  ผ่านตัวละครอนิเมชั่นที่เบื้องหลังการสร้างคืนคนจริงๆที่ค่อยๆแปลงทีละคำ

CAMPAIGN :  STORYSIGN / Huawei
AWARDS : GOLD (Brand Experience & Activation > Use of Mobile > Touchpoints & Technology)
GOLD (Digital Craft > UX & Journey Design > Form)
GOLD (Health & Wellness  > Health & Wellness Tech Mobile > Consumer Products Promotion )
GOLD (Mobile > Social Purpose > Social)

 

 

24) หากถูกเรียกจับทำผิดจราจรจะปล่อยไปไม่ลงโทษ ตอบแทนคนที่ลงทะเบียนบริจาคอวัยวะที่ให้ Second Chance คนอื่นเช่นกัน

ที่อเมริกาคนที่ลงทะเบียนเป็นผู้บริจาคอวัยวะจะถูกระบุไว้ว่าเป็น Donor ในใบขับขี่เลย (เวลามีอะไรเกิดขึ้นจะได้รู้ว่าเป็นผู้บริจาคได้) เมืองที่อยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย จึงมีความคิดริเริ่มร่วมกับหน่วยงานตำรวจในการโปรโมทเรื่องนี้ โดยเพียงแค่ถ้าตำรวจจราจรคนไหนเรียกรถที่ทำผิดให้จอด และเมื่อดูใบขับขี่พบว่าคนนั้นเป็นผู้บริจาคก็จะปล่อยไปโดยยังไม่มีลงโทษการปรับ เป็นการขอบคุณที่คนเหล่านั้นให้โอกาส Second Chance กับคนอื่น ตำรวจเลยอยากตอบแทนให้โอกาส Second Chance ด้วยเช่นกัน …ไอเดียน่ารักดี

CAMPAIGN :  Second Chances / DONATE LIFE CALIFORNIA
AWARDS : PR > Not-for-profit / Charity / Government > PR: Sectors

 

 

 

25) ฉลองความนิยมครบรอบ 50 ปี ของบิ๊กแมค ด้วยเหรียญ MacCoin เพราะปกติคนนำบิ๊กแมคมาใช้เปรียบเทียบเศรษฐกิจของประเทศอยู่แล้ว

ปีx.ในโอกาสที่ Big Mac ครบรอบ 50 ปีที่วางจำหน่าย จึงเฉลิมฉลองโอกาสนี้ด้วยเหรียญ MacCoin เพื่อเอามาแลกบิ๊กแมคได้ฟรี เหตุเพราะว่าในอดีตที่ผ่านมานั้น ทาง The Economist ชอบใช้สิ่งที่เรียกว่า The Big Mac index มาใช้เปรียบเทียบอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อดูกำลังซื้อของแต่ละประเทศ (คล้ายๆกับเราใช่มาม่ามาเปรียบเทียบ) เมื่อมันดูเป็นสกุลเงินแบบนึงก็เลยนำมาใช้ตอนฉลองครบรอบเสียเลย ปรากฏว่าคนแห่เก็บเหรียญนี้สะสมไว้ แล้วตอนนี้มูลค่าหนึ่งเหรียญนั้นเกินราคาจริงของบิ๊กแมคไปมาก

CAMPAIGN :  Big Mac 50th Anniversary / MCDONALD’S
AWARDS : GOLD (PR > Multi-market Campaign > Excellence in PR)

 

 

26) เอาใจแฟนบอลเปรูตามไปเชียร์บอลโลกรอบสุดท้าย ช่วยประหยัดค่าครองชีพด้วยการให้ซื้อของในซุปเปอร์มาร์เก็ตตามราค่าครองชีพในประเทศบ้านเกิด

สมมุติว่าทีมฟุตบอลทีมชาติไทยเข้ารอบสุดท้าย และต้องไปเตะบอลโลกที่ญี่ปุ่น เราจะเห็นคนไทยบินไปเชียร์ทีมชาติถึงประเทศญี่ปุ่นมากมายแน่นอน  เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับทีมชาติเปรูที่ไม่ได้เข้ารอบสุดท้ายบอลโลกมานานมาก และแฟนๆต้องบินตามไปเชียร์ถึงรัสเซียที่ค่าครองชีพแพงกว่าสามเท่า แบรนด์ซุปเปอร์มาร์เก็ตของเปรูเห็นช่องทำข่าว PR ก็เลยไปดีลกับซุปเปอร์มาร์เก็ตใกล้ๆสนามที่ทีมชาตเปรูเตะที่รัสเซีย ว่าหากคนเปรูมาซื้อของให้คิดราคาแบบค่าครองชีพที่เปรู ต้องไม่แพงเท่าแบบรัสเซีย (แค่โชว์พาสปอร์ต) เท่านี้ก็ได้ใจแฟนบอลไปเต็มๆ …ถ้าเป็นบ้านเราแบบไปญี่ปุ่นข้างต้น แล้ว 7-Eleven ทำให้เราแบบนี้ เราคงเลิฟมากกกก

CAMPAIGN :  PERUSSIAN PRICES / PLAZA VEA
AWARDS : GOLD (Brand Experience & Activation > Retail > Brand Experience & Activation: Sectors)
GOLD (PR > Social Behaviour & Cultural Insight > Culture & Context)

 

 

27) Hack ระบบ Recommendation เวลาซื้อของผ่าน Alexa ด้วยเสียง  คอยสอนระบบให้เชียร์แบรนด์ตัวเอง สร้าง Top of Mind ของอัลกอริธึ่ม

ที่เมืองนอกการชอปปิ้งด้วยเสียงผ่านอุปกรณ์ Alexa ของอเมซอนถือเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน แบรนด์ซีเรียลมองเห็นพฤติกรรมหนึ่งที่น่าสนใจคือ Incidental Loyalty กล่าวคือ คนมักจะซื้อแบรนด์ที่ระบบ Alexa แนะนำผ่านเสียง ใครรู้ระบบอัลกอริธึ่มที่จะคอย Recommendation นี้ก็จะได้ประโยชน์จากพฤติกรรมของเราคือเรื่อง Default Effect เรามักจะเลือกตัวเลือกที่เป็นค่า Default โดยไม่ต้องคิด แบรนด์ Cheerios รู้ว่าค่านี้จะกิดขึ้นเมื่อลูกค้าเลือกซื้อแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งเป็นแบรนด์แลกในหมวดนั้นๆบน Alexa กระบวนการ Hack จึงเกิดขึ้นในเทศกาลชอปปิ้ง Amazon Prime Day ทำทุกวิถีทางในเชิงโปรโมชั่นให้อัลกอริธึ่มของ Alexa เรียนรู้และเป็นประโยชน์ต่อแบรนด์ให้ได้  ระยะยาวถือว่าได้ประโยชน์อย่างมาก วิธีนี้ไม่ต้องการ Top of Mind ของ consumer แต่เป็น Top of Mind ของอัลกอริธึ่มแทน

CAMPAIGN :  Hacking Prime Day / GENERAL MILLS
AWARDS : GOLD (Media > Excellence in Media Execution > Excellence in Media)

 

 

28) ใช้เทคโนโลยีก้าวข้ามประสาทสัมผัส Google ขอทดลองเครื่องมือช่วยสร้างสรรค์

โปรเจคทดลองของกูเกิ้ลที่ใช้เทคโนโลยี Web และ AI คอยสร้างเครื่องมือเชิงครีเอทีฟโดยเน้นไปที่การก้าวข้ามประสาทสัผสดั้งเดิม เช่น เปลี่ยนเสียงเป็นภาพ เปลี่ยนการเคลื่อนไหวเป็นเสียง ช่วยให้ผู้ที่เป็น Disability สามารถสร้างสรรค์ผลงานต่างๆบนทิจิทัลได้ ยังอยู่ในช่วงเพิ่มต้นเท่านั้นนะ ดูเพิ่มเติมที่ https://experiments.withgoogle.com/collection/creatability

CAMPAIGN :  Creatability / Google
AWARDS : GRAND PRIX (Design > UX, UI & Journey Design > Digital & Interactive Design)

 

 

29) ปากกาไฮไลต์ขอไฮไลต์สตรีผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของโลก ขอแค่สังเกตก็จะเจอ

จากประโยชน์ของปากกาไฮไลต์กลายมาเป็นงานมี attitude และ purpose โดยเล่าผ่านสตรีผู้อยู่เบื้องหลังแต่ไม่เคยถูกไฮไลต์ออกมา เพราะตั้งแต่อดีตจะให้ค่าแก่เพศชายมากกว่า แบรนด์นี้เลยนำออกมาไฮไลต์ซะเลย ได้ใจสาย Gender Equality

CAMPAIGN :  HIGHLIGHT THE REMARKABLE / Communication Design
AWARDS : GOLD (Design > Posters > Communication Design)

 

 

 

30) แบรนด์พิซซ่าเสนอตัวซ่อมถนนเป็นหลุมเป็นบ่อให้ เวลาซื้อกลับบ้านจะได้ไม่พลาดมีพิซซ่าหน้าสวยๆดูน่ากิน

ไม่รู้ว่าไอเดียนี้เกิดจากกระบวนการ Empathy เพื่อตอบสนองสิ่งที่ลูกค้าต้องการจริงๆหรือเปล่า มันเป็นไอเดียที่ไม่น่าจะหาเจอง่ายๆคือ คนซื้อพิซซ่ากลับบ้านจะพบปัญหาเวลารถไปตกถนนที่เป็นหลุมบ่อ ทำให้หน้าพิซซ่าแตกเละไม่น่ากิน เลยเสนอตัวจะช่วยซ่อมถนนที่เป็นหลุมบ่อนี้ให้ละแวกที่โดมิโนพิซซ่าขายดี แม้รัฐบาลท้องถิ่นบางที่จะปฏิเสธเพราะเสียหน้า แต่หลายๆเมืองเอาด้วย ทำให้ได้ใจคนซื้อเพราะไม่คิดว่าโดมิโนจะใส่ใจแม้กระทั่งเรื่องเล็กๆน้อยๆ

CAMPAIGN :  Paving for Pizza / DOMINO’S PIZZA
AWARDS : GOLD (Brand Experience & Activation > Guerilla Marketing & Stunts > Excellence in Brand Experience)
GOLD (Outdoor > Ambient Outdoor > Innovation in Outdoor)