spikes 2017

รวม 15 งานน่าสนใจจากเวทีประกวด Spikes Asia 2017

Spikes Asia ยังเป็นงานเวทีระดับ Regional ที่คนเอเจนซี่จากไทยชอบส่งไปทุกปี ในปี 2017 นี้ขอนำงานที่ดูแล้วน่าสนใจ (ไม่เลือกงานที่โดดเด่นจากคานส์มากล่าวซ้ำ) จำนวน 15 งาน ดังต่อไปนี้

 

1) ลดอุบัติเหตุรถสวนตรงโค้งหักศอก เปลี่ยนจากป้ายเตือนเป็นเสียงแตรด้วยเทคโนโลยีจับความเร็ว

หากเราเคยไปอินเดียหรือต่างหวัดบนภูเขาสูงตามชนบท จะสังเกตว่าคนขับรถทางโค้งที่เชี่ยวชาญมักชอบกดแตรเมื่อถึงทางโค้งหักศอก แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ทำแบบนั้น ซึ่งอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดตรงทางโค้งเหล่านี้ หลายๆครั้งเราจะเห็นป้ายให้ระวังแต่มักคิดว่าคงไม่มีรถสวนจากฝั่งตรงข้ามที่มองไม่เห็นเลยไม่ค่อยชะลอรถ ไอเดียนี้เกิดจากความคิดเชิงจิตวิทยาที่ว่าปฏิกิริยาตอบสนองเสียงแตรรถดูจะได้ผลมากกว่าแค่สัญญาณไฟ เพราะคนจะเข้าใจว่าเป็นเสียงมาจากรถที่สวนมาจริงๆ จึงออกมาเป็นป้ายใช้เทคโนโลยีจับความเคลื่อนไหวของรถทั้งสองฝั่ง เมื่อรถสวนกันด้วยความเร็วอันตรายก็จะส่งเสียงแตรเตือนทั้งสองฝั่งให้ชะลอรถโดยอัตโนมัติ 

CAMPAIGN :  ROADS THAT HONK / HP LUBRICANTS
AWARDS : INNOVATION (INNOVATIVE SPIKE > APPLIED INNOVATION)

 

2) สร้างหมึกจากมลพิษในอากาศแล้วเปลี่ยนเป็น Street Art เมื่อแบรนด์เบียร์อยากลุกขึ้นมาแก้ไขปัญหาเรื่องนี้จริงจัง

เราอาจจะเคยเห็นงานรูปแบบที่พยายามกลั่นของสักอย่างให้ออกมาเป็นหมึกแล้วนำมาสร้างงานศิลปะกันบ้างแล้ว งานนี้มีความใกล้เคียงกัน แต่ไม่ใช่การป่าวประกาศ Purpose เฉยๆ แต่เอามา Activate ต่อโดยสร้าง Pilot โปรเจคที่ร่วมมือกับนักเทคโนโลยีประดิษฐ์เครื่องมือจับของเสียออกจากท่อไอเสียรถยนต์แล้วนำมา Recycle เป็นหมึก ส่งสารผ่านผู้คนโดยมอบหมึกเหล่านั้นให้ศิลปิน Street Art ไปวาดภาพรณรงค์ให้ผู้คนเข้าใจ Message ที่แบรนด์นี้อยากจะสื่อ จะเห็นได้ว่าไอเดียเริ่มต้นนี้ไม่ได้พูดถึงการฟื้นฟูปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว แต่เป็นการสะท้อนวิธีการลดหรือตัดตอนปัญหาบางส่วนให้เกิดผลลัพธ์จริง สมมติว่าถ้ารถทุกคนติดตั้งอุปกรณ์ตัวนี้ ก็จะลดมลพิษในอากาศได้มาก และถ้าสิ่งพิมพ์ทุกที่ใช้หมึกตัวนี้แทนหมึกเดิม เราก็เปลี่ยนปัญหาเป็นโอกาสได้

CAMPAIGN :  AIR-INK / TIGER BEER
AWARDS : INNOVATION (INNOVATIVE SPIKE > APPLIED INNOVATION)

 

 

3) ถ่ายทำได้ไง!? บ้านตีลังกาของแท้ โปรโมทจุดขายเกมส์เล่นกับแรงดึงดูด

อยากดู Making Of ของคลิปตัวนี้มาก เป็นคลิปโปรโมทเกม Gravity Daze 2 ของ Play Station   โดยดำเนินเรื่องผ่านเด็กผู้หญิงสองคนและลูกแมวให้คนดูได้เพลิดเพลินไปกับการชมตั้งแต่ต้น แต่แล้วจู่ๆโลกก็กลับหัวโดยแรงดึงดูดที่เคยเข้าใจนั้นไม่สามารถนำมาอธิบายได้ในคลิปนี้ และเป็นจุดขายของเกมนี้เช่นกัน ที่เน้นความเหนือจินตนาการมากกว่าโลกของนิวตัน ที่น่าสนใจคือการถ่ายเทคนิคแบบ one-cut takes และุุถ่ายแบบ Point-of-view Shot (มุมกล้องคือมุมมองของตัวละคร) 

CAMPAIGN :  GRAVITY CAT / SONY INTERACTIVE ENTERTAINMENT
AWARDS : GRANDPRIX (ENTERTAINMENT > ONLINE: FICTION)
GOLD  (FILM > MEDIA & PUBLICATIONS)

 

 

4) เมื่อรู้ว่าใครๆก็อยากได้ซอสสูตรลับบิ๊คแมค ก็จับแยกกันปล่อยให้คนไปตามหามาลองกินกับอาหารทุกประเภท

แบรนด์บางแบรนด์มีของที่เป็นตำนานและสามารถนำมาเป็นส่วนประกอบของไอเดียได้ เช่นเดียวกับ McDonald’s เองก็มีซอสลับที่อยู่คู่กับบิ๊กแมคมานาน และรู้ว่ามีคนอยากรู้ว่าซอสนี่ทำมาได้อย่างไร เมื่อยอดขายตกก็เลยหยิบเอาเรื่องนี้มาพูด เพียงแต่ไม่เกี่ยวกับบิ๊กแมคเลย โดยทำซอสออกมาแยกขายต่างหาก แค่นี้คนก็ตื่นตัว ทีมงานก็ขยี้โดยเอาไปประมูลบ้าง ทำเป็น Parody บ้าง เมื่อขยี้สมใจแล้วก็ปล่อยตัวซอสที่เป็น Sampling กล่องเล็กๆแจกจ่ายทั่วประเทศให้คนไปพยายามเอามาให้ได้ แค่นี้คนก็สนใจเอามาลองกับอาหารประเภทอื่นโพสต์ลงโซเชียลกันไปแบบฟรีๆ แล้วในที่สุดความพยายามก็วกกลับมาทำให้ยอดขายบิ๊คแมคขึ้นในที่สุด

CAMPAIGN :  #MACITBETTER / MCDONALDS AUSTRALIA
AWARDS : Creative Effectiveness Spike

 

 

 

5) แบรนด์แกล้งทำพลาดส่งอีเมลล์หลุด กลายเป็นแจกแต้มจนหน้ามืด ที่แท้สร้าง Story เบื้องหลังซ้อนไว้อีกที

แคมเปญนี้มีความเป็น Transmedia Storytelling หน่อยๆ… ปกติโปรแกรม Frequent Flyer ของสายการบินมักมีการออกแคมเปญโอนแต้มข้ามค่ายอย่างแต้มบัตรเครดิตกันอยู่บ่อยๆเหมือนที่บ้านเราทำกัน สายการบิน Virgin ของออสเตรเลียก็ทำแบบนี้ทุกปี แต่ปีนี้พิเศษตรงที่สร้างเรื่องราวให้มันดูน่าติดตามโดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากเวลาแบรนด์ต่างๆมักจะทำอะไรพลาดจะกลายเป็นดราม่าบนออนไลน์ …วิธีเดียวกัน เริ่มจากปล่อย e-mail ให้กับสมาชิกโปรแกรมว่าปีนี้แจกแต้มหนึ่งพันล้านแต้ม (Billion) แทนที่จะเป็นหนึ่งล้านแต้ม (Million) แต้มอย่างทุกปี จากนั้นภายใน 24 ชม ก็ออก e-mail อีกฉบับว่าทำพลาดไปแล้ว แต่เลยตามเลยให้ไปเลยก็แล้วกัน …จากนั้นก็สร้างเรื่องราวเป็น Story ออกมาเป็นฟิลม์ว่าตัวการที่ทำพลาดมาจากพนักงานฝึกงานคนหนึ่งที่ชื่อ ‘Tim’ … ที่โดดเด่นในแคมเปญนี้ตามมาคือ แทนที่จะทำหนังเป็นเรื่องเดียว แต่กลับซอยย่อยออกมาเป็น 40 เรื่อง แล้วใช้เทคโนโลยีด้านมีเดีย ทำการยิงหนังแบบ re-targeting แต่ละตอนข้ามแพลตฟอร์ม ให้เป็นไปตามลักษณะ contextual ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ profile ของคนดู หรือพฤติกรรมการดูก่อนหน้านี้ ระดมยิงออกมาเป็นตอนๆภายในเดือนเดียว ถือว่าแปลกดี ….สรุป แคมเปญนี้มีไอเดีย มีการใช้เทคโนโลยีมีเดีย และทำให้แคมเปญเชิงโปรโมชั่นเน้น performance น่าเบื่อๆให้กลายมามีสีสันดี

CAMPAIGN :  THE BILLION POINT GIVEAWAY / VELOCITY FREQUENT FLYER
AWARDS : GOLD  (DIGITAL > TRAVEL, LEISURE, RETAIL, RESTAURANTS & FAST FOOD CHAINS)

 

 

6) ฉลอง! คนจนกู้ได้แล้ว เลิกดู Credit Score แต่ดูจากความฝันแล้วให้คนรอบตัวในโซเชียลเป็นผู้อนุมัติ

คนที่ยากจนส่วนใหญ่หมดสิทธิ์ที่จะไปที่แบงค์กู้ยืมเงินมาลงทุน นั่นเพราะว่าแบงค์ส่วนใหญ่ดูที่ว่าคนๆนั้นมี credit score ในการคืนเงินได้แค่ไหน ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านของอินเดียอย่างบังคลาเทศเริ่มมีเครื่องมือทางการเงินใหม่ๆ อย่าง microfinance ที่ไม่ได้เน้นหลักทรัพย์เพื่อค้ำประกัน แต่ใช้หลักทรัพย์ทางสังคม (social collateral) มาเป็นวิธีค้ำประกันสร้างความมั่นใจว่าผู้กู้จะสามารถคืนเงินได้ ทาง TATA CAPITAL ของอินเดียก็ทำลักษณะคล้ายกัน คือคิดใหม่ทำใหม่โดยไม่ได้มองที่หลักทรัพย์ แต่มองที่ความตั้งใจและความฝัน โดยผู้ขอกู้ต้องแนะนำตัวเองผ่านวีดีโอ (ใครไม่มีกล้องก็มีการจัดเตรียมบู้ทให้เข้าไปถ่ายวีดีโอได้เหมือนกัน) กลายเป็นว่าใช้สตอรี่ของตัวเองมาแทนที่การกรอกแอพพลิเคชั่นฟอร์มขอกู้ แล้วอัพโหลดลงในโซเชียล ความสำคัญอยู่ที่ตรงนี้ ใครที่มีคนกดไลค์เกินพันคน ก็จะได้รับการพิจารณาปล่อยกู้ ดูเผินๆจะเหมือนแคมเปญขอไลค์ขอแชร์ปกติ แต่ถ้าดูดีๆ ผู้กู้ก็เสมือนเป็นการประกาศสู่สาธารณะและคนรอบตัว กลายเป็น commitment ที่มีแรงผลักดันต้องทำตามอย่างที่พูดให้ได้ พูดง่ายๆไม่ต้องใช้ credit score แต่ใช้หลักทรัพย์ทางสังคมรูปแบบหนึ่งเช่นกัน

CAMPAIGN :  TATA CAPITAL SALAAM LOANS > TATA CAPITAL
AWARDS : GOLD (DIGITAL > SOCIAL PURPOSE)

 

 

7) ใช้ลูกเล่น Responsive Design บนเวบ มาโปรโมทยีนส์ที่ฟิตทุกอิริยาบถไม่ว่าจะเอ็กซ์ตรีมแค่ไหนก็ตาม

เวบไซท์ปัจจุบันเป็นลักษณะ Responsive Design หมายถึงเป็นเวบที่จัดองค์ประกอบของหน้าตามขนาดของหน้าจอ ไม่ว่าจะขยายหรือลดขนาดหน้าจอก็จะปรับสภาพตามได้ แบรนด์ Diesel เลยหยิบเอาลูกเล่นนี้มาใช้ เพราะเดนิมรุ่น JoggJeans มีจุดขายคือใส่ สบายมากทุกอิริยาบถแม้กระทั่งตอนทำอะไร extreme ก็ตาม ก็เลยทำเป็นเวบไซท์ให้คนลองเล่น โดยที่คนที่อยู่ในเวบจะขยับปรับอิริยาบถให้ฟิตกับขนาดจอตลอดเวลา

เล่นได้ที่เวบไซท์

CAMPAIGN :  THE RESPONSIVE LOOKBOOK  / DIESEL
AWARDS :  SILVER (DIGITAL > MICROSITES)

 

8) แคมเปญยาวนาน 3 เดือน ชีวิตวัยรุ่นสุดแย่ เมื่อถูกยึดใบขับขี่แล้วต้องเดินทางให้แม่มาส่งทุกวัน

อีกหนึ่งงานที่มีความเป็น Content Marketing รูปแบบกึ่งๆ Transmedia Storytelling สำหรับวัยรุ่นออสเตรเลีย การโฆษณารณรงค์ขับรถเร็วผิดกฏหมายนั้นไม่ค่อยได้ผลนัก จึงเปลี่ยน message ใหม่ แทนที่จะพูดตรงไปตรงมาเหมือนเดิม ก็เปลี่ยนเป็นพุ่งเป้าไปที่ชีวิตจะบัดซบอย่างไรถ้าถูกยึดใบขับขี่สามเดือน และจะยิ่งแย่กว่าถ้าไปไหนมาไหนต้องให้แม่มาส่ง กลายเป็นซีรีส์เชิง Documentary ชีวิตบัดซบของวัยรุ่นคนหนึ่งผ่านตัวละครชื่อ Nate Dwagg ออกวีดีโอคลิปชีวิตติดแหง่กอยู่กับแม่ยาว 11 ตอนตลอดช่วงระยะเวลาสามเดือนเหมือนกับช่วงชีวิตบนไทม์ไลน์จริงๆ นอกจากนั้นยังเปิด Social Media ขึ้นมาจริงๆให้จำลองคล้ายโลกโซเชียลมีเดียที่มีตัวตนจริงๆ …..ถ้าบอกตรงๆไม่ได้ ก็บอกไปว่าถ้าขับรถเร็วแล้วถูกยึดใบขับขี่ ชีวิตจะ Sucks แค่ไหน

CAMPAIGN :  TIME WITH MUM / ROAD SAFETY COMMISSION
AWARDS : SILVER (DIGITAL > INTEGRATED MULTI-PLATFORM CAMPAIGN (ONLINE & OFFLINE)

 

 

 

9) เครื่องดื่มชูกำลังขอปลุกชีพนักมวยหมดความนิยมให้กลับมาฮึดสู้ เปลี่ยนเมืองปากีฯเป็นสนามซ้อม พร้อมให้แฟนๆมาชวนซ้อมด้วยกัน

อดีตนักมวยแชมป์โอลิมปิคอย่าง Amir Khan ก็เหมือนกับนักกีฬาคนอื่นๆที่มีช่วงที่รุ่งเรืองและช่วงที่หมดความนิยม ตั้งแต่ Amir Khan แพ้น๊อคคู่แข่งก็ไม่ขึ้นชกอีกเลยจนคนลือว่าจะแขวนนวม เครื่องดื่มให้พลังงานอย่าง Sting ของปากีสถานรู้ว่านักมวยคนนี้แม้จะเป็นสัญชาติอังกฤษแต่ก็มีเชื้อชาติจากปากีสถาน (คงคล้ายกับไทเกอร์ วู้ดบ้านเรา) และรู้ว่าถ้านำเขามาทำแคมเปญด้วยการ Re-energize ตัวเขาเองได้อีกครั้งให้ฮึดสู้ต่อก็จะส่งผลดีต่อแบรนด์ จึงชวนเขามาทำคลิปเท่ห์ๆโดยให้เมืองหลวงละฮอร์กลายเป็นสนามซ้อมอีกครั้ง พร้อมกับชวนให้ชาวปากีสถานได้ใกล้ชิดมากขึ้นโดยชวนมาคิด Challenge การซ้อมแปลกๆให้กับ Amir Khan  …เสียดายตรงที่ปลายทางไม่ได้บอกว่าท้ายที่สุดจะไปลงเอยชกต่อกับใครเป็นไคลแมกซ์ แต่ก็ได้คอนเทนต์ที่แนวคิดไฮบิรดระหว่างออฟไลน์กับออนไลน์ที่ดี

CAMPAIGN :  STING “REMAKE THE BOXER” / STING ENERGY DRINK
AWARDS : SILVER (DIGITAL > INFLUENCER / TALENT)

 

10) ช่วยกันเตรียมตัวเก็บของเผื่อแผ่นดินไหว ไอเดียสำหรับครอบครัวจากสื่อสิ่งพิมพ์เมืองโกเบ

แคมเปญนี้มี execution คล้ายแคมเปญ “Cook This Page” ของ Ikea ที่นำงานพรินต์มาช่วยตวงอาหาร แต่งานนี้มาจากญี่ปุ่นโดยหนังสือพิมพ์ของ Kobe ใครๆก็รู้ว่าเมืองนี้เคยผ่านเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่มาตอนปี 1995 แม้คนญี่ปุ่นจะถูกสอนมาให้ตื่นตัวและเตรียมตัวอยู่เสมอ แต่เรื่องบางเรื่องก็ไม่ได้ลงรายละเอียด เช่นต้องเตรียมตัวอย่างไรเมื่อต้องอพยพไปที่ศูนย์หลบภัยแผ่นดินไหวที่จัดตั้งไว้ในเมือง หรือควรต้องตระเตรียมอุปกรณ์อย่างไรบ้างให้น้อยชิ้นที่สุดแต่ได้ประโยชน์สูงสุดในการเอาตัวรอด ทางหนังสือพิมพ์แห่งนี้จึงทำแผ่นช่วยเตรียมตัวการเก็บข้าวของเตรียมไว้สำหรับการอยู่ในศูนย์อพยพ โดยเน้นการ educate และให้ครอบครัวได้คุยปรึกษากัน เมื่อบ้านที่เห็นแผ่นนี้ก็นำมาลองทำกันจริงๆ เมื่อทำเสร็จก็พร้อมแชร์ต่อผ่านโซเชียลก็ทำให้ไอดียแคมเปญนี้ถูกบอกต่อๆกันได้ไกลยิ่งขึ้น

CAMPAIGN :  EMERGENCY COLLECTIBLES / KOBE SHIMBUN
AWARDS : GOLD (MEDIA > MEDIA & PUBLICATIONS)

 

 

 

11) เปลี่ยนขนมให้กลายเป็นสื่อสอน Coding ปลูกฝังการเขียนโปรแกรมให้สนุกด้วยอร่อยด้วย

ใครๆก็รู้ว่าวิชา Coding สำคัญมากในอนาคตข้างหน้า แต่กว่าจะได้เรียนวิชาเหล่านี้ก็ต้องรอให้โตก่อน ซึ่งจริงๆอาจจะช้าไปด้วยซ้ำ ทาง Glico ขนมขวัญใจของเด็กๆทั่วญี่ปุ่น จับจุดเอาขนมหลากหลายชนิดของตัวเองผนวกเข้ากับเทคโนโลยี Image Recognition บนมือถือ สร้างแคมเปญแนว Edutainment ขึ้นมา โดยให้เด็กลองวางขนมต่างๆแล้วเปลี่ยนรูปแบบออกมาเหมือนการสร้างเกมส์สนุกๆ แฝงแนวคิดการ Coding แบบเบสิคลงไป เมื่อเด็กๆได้ลองไปเรื่อยๆก็จะเข้าใจเรื่องเบสิกของการ Coding ไปโดยอัตโนมัติ

CAMPAIGN :  GLICODE / EZAKI GLICO
AWARDS :

GOLD (MOBILE > AUGMENTED MOBILE EXPERIENCE)

SILVER (DIRECT > USE OF TECHNOLOGY)

 

12) กลับมาอีกครั้ง แคมเปญเพื่อสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนขวดเบียร์ใช้แล้วให้กลายเป็นทราย ลดผลกระทบการใช้ทรายจากทะเล

หลังจากโด่งดังในแคมเปญแนว Environmental Sustainability อย่าง  Brewtorium ที่นำของเหลือจากการผลิตเบียร์มาทำเป็นน้ำมัน คราวนี้แคมเปญออกมารูปแบบเดียวกัน แต่มุ่งไปที่ทรายจากทะเลที่นับวันจะหมดลงเพื่อนำไปใช้ในการก่อสร้าง ขวดเบียร์ที่กินหมดแล้วสามารถช่วยลดการใช้ทรายเหล่านี้ได้ ถ้านำขวดเบียร์มาแยกออกมาเป็นทรายแก้ว จากนั้นก็นำทรายเหล่านั้นไปใช้ในการก่อสร้างแทน

CAMPAIGN :  DB EXPORT BEER BOTTLE SAND / DB BREWERIES
AWARDS : GOLD (MEDIA  >  FAST MOVING CONSUMER GOODS)
GOLD (MEDIA  > USE OF INTEGRATED MEDIA)

 

 

13) จำลองปลาวาฬขนาดใหญ่เกยตื้น แต่แท้จริงทำจากขยะพลาสติก บอกให้โลกรู้เรามาดูแลสิ่งแวดล้อมในทะเลกันเถอะ

การจะทำให้เกิดกระแส PR ได้ ต้องสร้างอะไรสักอย่างที่จับต้องได้ง่ายและส่งต่อได้ง่าย งานของ Greenpeace งานนี้คืิอให้คนตระหนักเรื่องสิ่งแวดล้อมจากขยะในทะเล เรามักจะได้ยินข่าวปรากฏการณ์ปลาวาฬหรือปลาขนาดใหญ่เกยตื้นเพราะไปกินขยะพลาสติกเข้าไป ระหว่างงาน ASEAN SUMMIT ที่หาดแห่งหนึ่งในฟิลิปปินส์ปรากฏปลาวาฬสีน้ำเงินขนาดใหญ่เข้ามาเกยตื้น แต่เมื่อเข้าไปดูใกล้ๆก็จะพบว่าปลาวาฬตัวนี้เป็น Installation ที่สร้างจากขยะพลาสติก ทุกอย่างลงตัว เข้าใจง่าย แชร์ได้ง่าย เป็นข่าวได้ง่าย กระแสต่างๆจึงตื่นตัวสร้างความเคลื่อนไหวในการเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้ในเวทีนานาชาติได้ในที่สุด

CAMPAIGN :  DEAD WHALE / GREENPEACE PHILIPPINES
AWARDS : GOLD (MEDIA > USE OF STUNTS)

 

 

14) อยากให้มีคนมาเชียร์ทีมฟุตบอลมากขึ้น สโมสรฟุตบอลจึงต้องแข่งกันแย่งแฟนฟุตบอลตัวน้อยให้เลือกทีมตัวเองให้ได้

จริงๆแคมเปญนี้ดูมีความคล้ายกับสถานการณ์วงการกีฬาฟุตบอลบ้านเรา คือเรามีทีมเชียร์ฟุตบอลในลีคสโมสรอังกฤษ แต่กับทีมในไทยเรายังไม่ได้สนใจหรือมีทีมเชียร์ที่ชอบเป็นพิเศษ ซึ่งการที่ทุกคนมีทีมที่ชอบจะทำให้สโมสรฟุตบอลและทั้งวงการพัฒนาขึ้นอย่างยั่งยืน ที่ออสเตรเลียกีฬาฟุตบอลกำลังเป็นที่นิยมเล่นในหมู่เด็กๆมากกว่ากีฬาประเภทอื่น แต่เด็กๆเหล่านั้นส่วนใหญ่ก็แค่สนใจเล่นแต่ยังไม่สนใจเชียร์ฟุตบอลหรือมีทีมโปรดอย่างจริงจัง ไอเดียก็เลยคิดแบบกลับตาลปัตร แทนที่จะโปรโมทชวนคนมาเลือกเชียร์สโมสรฟุตบอลที่มีอยู่มากมาย แต่เป็นสโมสรฟุตบอลต่างๆต่างหากที่ต้องแข่งขันแย่งชิงแฟนให้มาเชียร์ทีมตนเองให้ได้ และเด็กคนนั้นผู้โชคดีก็คือ Yoshi ผู้มีหน้าที่ไปเป็นแขกพิเศษเยือนสโมสรฟุตบอลต่างๆของออสเตรเลีย ทีนี้ก็แล้วแต่แต่ละสโมสรเลยว่าจะเลี้ยงดูปูเสื่อหรือมอบประสบการณ์สุดพิเศษให้ Yoshi อย่างไร กลายเป็นคอนเทนต์มากมายที่ปล่อยออกมามากมายที่ดูใสซื่อบริสุทธิ์ และกลายเป็นเทรนด์ติดกระแสในโลกโซเชียลมีเดียในที่สุด … ความดีงามของไอเดียนี้คือ เรามีแค่ seeding idea ตั้งต้น ที่เหลือก็ปล่อยให้มันเป็นไปอย่างที่มันควรจะเป็น และไม่เซ็ตอัพหรือคอนโทรลทุกอย่าง ….และมันก็ไม่ใช่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเฉพาะเด็กเท่านั้น แต่มัน Halo Effect ไปถึงผู้ใหญ่ด้วยว่าควรจะมีทีมเชียร์ได้แล้วนะ


PR STRATEGIC PILLARS:
1. CLOSE THE GAP BETWEEN PARTICIPATING AND SUPPORTING
2. GO STORY NOT SPORT
3. INTIMACY AT SCALE
4. GO STORY NOT SPORT
5. IDEA AND EXECUTION DESIGNED TO EARN, BORROW AND STEAL EARNED MEDIA

CAMPAIGN :  YOU’VE GOTTA HAVE A TEAM / FOOTBALL FEDERATION AUSTRALIA
AWARDS : GOLD ( PR > CONTENT-LED ENGAGEMENT & MARKETING)

 

 

 

15) เปิด GPS แล้วมาวิ่งให้เป็นรูป “น้องชาย” ของคุณ ช่วยรณรงค์โรคมะเร็งอัณฑะในหมู่ผู้ชายกันเถอะ

นับว่าเป็นการประยุกต์ไอเดียแนวการวาดแผนที่ด้วย GPS ได้ดีทีเดียว ถึงแม้ Execution แนวนี้จะไม่สดใหม่ แต่ถ้าวันหนึ่งเราได้เห็นภาพ Running Route  ของเพื่อนๆเราในตอนเช้ากลายเป็นรูปอวัยวะเพศของผู้ชาย เราคงอดไม่ได้ที่จะอยากรู้ว่าเขาทำอะไรกัน …แคมเปญนี้ตั้งใจให้คุณผู้ชายหันมาใส่ใจดูแลป้องกันโรคมะเร็งอัณฑะที่คุณผู้ชายมักมองข้าม ซึ่งมันป้องกันง่ายๆแค่ออกกำลังกาย…วิธีการก็ง่ายๆคือออกไปวิ่ง เปิดแอพฯที่ Track การวิ่ง แล้วสร้างศิลปะด้วยการวิ่งของท่านให้กลายเป็นรูปน้องชายในแบบฉบับของคุณ แชร์ลงไปในโซเชียล แล้วก็ท้าเพื่อนนักวิ่งของคุณให้ทำแบบเดียวกันเหมือนกับ Ice Bucket Challenge…ตามดูเหล่าศิลปะของนักวิ่งได้ที่ https://goballsout.org.nz/

CAMPAIGN :  GO BALLS OUT / TESTICULAR CANCER NEW ZEALAND
AWARDS : GOLD (PR > CO-CREATION & USER GENERATED CONTENT)